มติกกต.ที่ออกมา คือให้ยกคำร้อง 2 เสียง ให้มีการสอบเพิ่มเติม 1 เสียง ให้ตรวจสอบความเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย 1 เสียง และให้ใบแดง 1 เสียง เท่ากับตอนนี้นายจตุพร ได้รับการรับรองเป็นส.ส.ไปแล้ว เนื่องจากถ้าจะให้ใบแดง กกต.จะต้องมีเสียงถึง 4 เสียง แต่ตอนนี้มีถึง 2 เสียงที่ยกคำร้อง
แหล่งข่าวจากกกต. เปิดเผยว่า กรณีนายจตุพร พรหมพันธุ์ นั้น ทางคณะอนุกรรมการไต่สวนเพิ่มเติม ได้ส่งข้อมูลให้กกต.เรียบร้อยแล้ว เหลือเพียงการเขียนคำวินิจฉัยของแต่ละคน และจะมีการขานมติในการประชุมกกต.วันที่ 1 ส.ค.
ต้องยอมรับว่าตอนนี้มีคนเข้าใจผิดกันมาก ว่ากกต.ต้องการจะแขวนหรือจะไม่รับรองให้นายจตุพร ให้เป็นส.ส. ทั้งที่ความจริง มติกกต.ที่ออกมา คือให้ยกคำร้อง 2 เสียง ให้มีการสอบเพิ่มเติม 1 เสียง ให้ตรวจสอบความเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย 1 เสียง และให้ใบแดง 1 เสียง เท่ากับตอนนี้นายจตุพร ได้รับการรับรองเป็นส.ส.ไปแล้ว เนื่องจากถ้าจะให้ใบแดง กกต.จะต้องมีเสียงถึง 4 เสียง แต่ตอนนี้มีถึง 2 เสียงที่ยกคำร้อง
แหล่งข่าวจากกกต. กล่าวว่า สมมติว่าในการประชุมกกต.วันที่ 1 ส.ค. กกต.อีก 2 เสียงที่ให้สอบเพิ่มจะให้ใบแดง นายจตุพร ก็ยังได้รับการรับรอง เพราะจะเท่ากับเสียงให้ใบแดงมีเพียง 3 เสียงเท่านั้น ซึ่งตามกฎหมาย การใบแดงก่อนรับรองผลการเลือกตั้งจะต้องมีเสียงถึง 4 เสียง
อ้างช้า-รอทำสำนวนยื่นศาลรธน.
แหล่งข่าวจากกกต. กล่าวว่า สาเหตุที่กกต.ยังไม่ได้รับรองนายจตุพร ไปก่อนหน้านี้ เนื่องจากกกต.อยากให้มีความชัดเจนเรื่องกระบวนการหลังจากรับรองไปแล้วว่า ควรทำสำนวนส่งไปยังประธานสภาผู้แทนราษฎร เพื่อให้ดำเนินการตามมาตรา 91 ของรัฐธรรมนูญ โดย ขอให้ส.ส.เข้าชื่อไม่น้อยกว่า 1 ใน 10 ของจำนวนส.ส.ที่มีอยู่ เพื่อส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความการเป็นสมาชิกภาพการเป็นส.ส.ของนายจตุพร ว่า สิ้นสุดลงหรือไม่อย่างไร ดังนั้น การจะให้กกต.รับรองโดยไม่มีแนวทางต่อไป กกต.ทำไม่ได้
"ไม่เข้าใจว่าทำไมมีแต่คนเข้าใจผิดกันไปหมดว่า กกต.แขวนนายจตุพร ทั้งที่ความจริงตามข้อกฎหมาย นายจตุพร ได้การรับรองไปแล้วตั้งแต่วันที่ 27 ก.ค. เพราะมีถึง 2 เสียงที่ให้ยกคำร้อง" แหล่งข่าวจากกกต. กล่าว
สดศรีแจงไม่ได้ยื้อ'จตุพร'
นางสดศรี สัตยธรรม คณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)ด้านกิจการพรรคการเมือง ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีรับรองความเป็นส.ส.ให้กับนายจตุพร พรหมพันธุ์ ผู้สมัคร ส.ส. บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทยว่า ขณะนี้ กกต. ได้รับข้อมูลเพิ่มเติมจากกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทย เรื่องความคงอยู่ของการเป็นสมาชิกภาพพรรคเพื่อไทยของนายจตุพร ซึ่งเรื่องดังกล่าวจะพิจารณาในวันที่ 1 ส.ค.
นางสดศรี กล่าวว่า ยืนยันว่ากรณีนายจตุพร ทางกกต.ไม่ได้ยื้อในเมื่อกรอบรับรองคือ 30 วัน ซึ่งจะครบในวันที่ 1 ส.ค.นี้ และการโหวตเมื่อวันที่ 27 ก.ค. คะแนนออกมาไม่เป็นเอกฉันท์ บางคนให้สอบเพิ่ม เมื่อต้องสอบเพิ่มก็ต้องมีการลงมติ กกต.จึงขอเวลาพิจารณาและคำสั่งของนายจตุพร ต้องเป็นลายลักษณ์อักษร เพราะเชื่อว่าไม่ว่าผลออกมาอย่างไร จะมีการฟ้องร้อง กกต. แน่นอน
ชี้ใบแดงองค์ประกอบไม่ครบ
เมื่อถามว่ามีความเป็นไปได้ว่าจะรับรองนายจตุพร ก่อนใช่หรือไม่ นางสดศรีกล่าวว่า ตามกฎหมายระบุว่าการจะให้ใบแดงบุคคลใด จะต้องมีการโหวตด้วยคะแนน 4 ต่อ 5 มันชัดอยู่แล้ว ไม่เห็นต้องเดือดร้อน เพราะ คะแนนการโหวตครั้งที่ผ่านมา เป็น 3 ต่อ 2 และเราทำตามสำนวน ทั้งนี้ ตนไม่หนักใจที่ถูกกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.)กด ดัน เพราะ กกต.ทำงานบนพื้นฐานของกฎหมาย กฎหมายว่าอย่างไรก็ว่าตามนั้น เพราะถ้าเห็นเป็นอย่างอื่น กกต.จะถูกฟ้อง
ที่มา : ข่าวสดออนไลน์ "ที่แท้กกต.รับรองแล้ว จตุพรเฮ เป็นส.ส.จันทร์นี้"
อดีตสสร.ฟันธงกกต.เข้ามุมอับต้องรับรองจตุพรเท่านั้น แจกใบแดงเลื่อนตัวสำรองเสียบแทนผิดกม.
"สรุป กกต.พลาดเอง ก็คงไม่มีทางเลือกอื่นที่จะต้องประกาศรับรองการเป็น ส.ส. ของ นายจตุพร ไปก่อน รอให้มีประธานสภาผู้แทนราษฎร แล้วจึงยื่นให้ประธานสภาส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยชี้ขาดว่า นายจตุพร จะต้องพ้นจาก ส.ส. เนื่องจากขาดคุณสมบัติหรือไม่ หากทำนอกจากนี้ผิดหมด"
www.kaninboonsuwan.com
สมคิด รักษาแชมป์ไว้ได้

ส่วนผลการนับคะแนนใหม่เขตการเลือกตั้ง ส.ส.ยะลาเขต 2 ที่ทาง กกต.มีมติให้นับใหม่ และผลการนับคะแนนอย่างไม่เป็นทางการนายอับดุลการิม เด็งระกีนา พรรคประชาธิปัตย์เฉือนชนะ นายซูการ์โน มะทา จากพรรคเพื่อไทยไปกว่า 1,000 คะแนน จากเดิมต่างกันแค่ 33 คะแนน ส่วน
ที่ จ.หนองคาย เขต 2 นายสมคิด บาลไธสง ผู้สมัคร ส.ส.จากพรรคเพื่อไทยเข้าวินตามเดิม.
ที่ศูนย์รวมนับคะแนนกองบังคับการตำรวจภูธร จ.หนองคาย ซึ่งเป็นสถานที่รวมผลคะแนนเลือกตั้งส.ส. เขตเลือกตั้งที่ 2 นั้น ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แม้จะมีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งวัน ได้มีผู้มาใช้สิทธิ์จำนวน 59,9619 คน จากผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งทั้งหมด 121,513 คน ส่วนผลการเลือกตั้งอย่างไม่เป็นทางการ ปรากฎว่า นายสมคิด บาลไธสง เบอร์ 1 จากพรรคเพื่อไทย ได้ 46,403 คะแนน นายพิทักษ์ ศรีตะบุตร เบอร์ 2 จากพรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน ได้ 10,726 คะแนน เป็นบัตรเสีย 1,417 บัตร ไม่ประสงค์ลงคะแนน 853 บัตร
สวนดุสิตโพลล์ชี้"ยิ่งลักษณ์"จะทำให้สมหวัง

กระทรวงมหาดไทย 77.89 % เนื่องจากเป็นกระทรวงที่มีบทบาทในการปกครองบ้านเมือง และ เป็นตำแหน่งที่นักการเมืองต้องการ
กระทรวงการคลัง 72.03 % เพราะเป็นกระทรวงที่เกี่ยวข้องกับการเงินของประเทศ และปากท้องของประชาชน ผู้ที่จะเข้ามาจึงถูกจับตาเป็นพิเศษ
กระทรวงกลาโหม 77.00% เพราะทำหน้าที่ดูแลความมั่นคงของประเทศ ดดยเแพาะการแก้ปัญหาเร่งด่วนด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ และสร้่างขวัยกำลังใจให้กองทัพหลังเกิดเหตุเฮลิคอปเตอร์ตก
กระทรวงศึกษาธิการ 67.93% เพราะการศึกษาเป็นสิ่งสำคัญในการพัฒนาประเทศ และอยากเห็นการปฏิรูปการศึกษาเป็นรูปธรรม และ
กระทรวงพาณิชย์ 56.46% เนื่องจากมีหน้าที่ในการดูแลควบคุมราคาสินค้า และอยากให้มีนโยบายปรับลดราคาสินค้าเพื่อลดภาระประชาชน
ส่วนคุณสมบัติที่ดีของรัฐมนตรีที่ประชาชนต้องการ ประกอบด้วย
1. เป็นคนดีมีคุณธรรม ซื่อสัตย์สุจริต ไม่โกงกินบ้านเมือง 42.55%
2. มีความรู้ความสามารเป็นผู้นำ เป็นที่ยอมรับ น่าเชื่อถือ มีวิสัยทัศน์กว้างไกล 23.62%
3. มีความมุ่งมั่นตั้งใจจริงที่จะทำงานเพื่อประเทศชาติ 14.90%
4. มีนโยบายที่ชัดเจน ทำงานเพื่อส่วนรวม นึกถึงประชาชนเป็นสำคัญ 14.25% และ
5. ต้องเป็นผู้มีประสบการณ์หรือทำงานในกระทรวงที่จะมาดำรงตำแหน่งและเข้าใจองค์กร 4.68 %
ต่อคำถามที่ว่าเหตุใดการสรรหารัฐมนตรีที่ดีและมีความรู้ความสามารถจึงทำได้ ยาก
1. เห็นว่าเนื่องจากมีเรื่องผลประโยชน์ทางการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง เช่นความอาวุโส และ ทำประโยชน์ให้พรรคมานาน 50.61%
2. ผู้มีคุณสมบัติ มีความรู้ความสามารถ ไม่ต้องการที่จะเข้ามายุ่งเกี่ยวกับการเมือง 18.29%
3. การจัดสรรโควตาต้องดู สัดส่วน ส.ส.เขต และ บัญชีรายชื่อ และจำนวน ส.ส.ของพรรคร่วม 16.46%
4. กระทรวงสำคัญๆ แกนนำของพรรคที่ได้รับเสียงข้างมาก จะเป็นผู้จัดสรรเอง 7.93% และ
5.ผู้ดำรงตำแหน่งส่วนใหญ่ไม่มีความรู้ความสามารถในกระทรวงนั้นๆ เป็นคนจากภายนอกเข้ามา 6.71%
ส่วนคำถามเรื่องความคาดหวังของประชาชนต่อรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ประชาชน
52.91% เชื่อว่าจะสมหวัง ส่วน
21.97% มองว่าไม่น่าสมหวัง 13.01% มองว่าสมหวังแน่นอน และ
12.11 % เชื่อว่าไม่สมหวัง